เอ็ม1 กาแรนด์
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ปืน M1 Garand พร้อมคลิปกระสุนแบบ en bloc | |
ปืน M1 Garand | |
---|---|
ชนิด | ปืนเล็กยาวจู่โจม |
สัญชาติ | USA |
สมัย | สงครามโลกครั้งที่ 2 |
การใช้งาน | อาวุธประจำกาย |
เป้าหมาย | บุคคล |
เริ่มใช้ | 1939 |
ช่วงผลิต | 1936-1957 |
ช่วงการใช้งาน | 1936-1957 |
ผู้ใช้งาน | |
สงคราม | สงครามโลกครั้งที่ 2, สงครามเกาหลี, สงครามเวียดนาม |
ขนาดลำกล้อง | 0.30 นิ้ว (7.62 มิลลิเมตร) 4 เกลียว เวียนขวา |
ระยะครบรอบเกลียว | 10 นิ้ว (1:10) |
ความยาวลำกล้อง | 24 นิ้ว (609.6 มิลลิเมตร) |
กระสุน | .30-06 Springfield |
ซองกระสุน | แบบ En Bloc ความจุ 8 นัด |
ระบบปฏิบัติการ | ขับดันด้วยก๊าซ (Gas-operated) ขัดกลอนด้วยลูกเลื่อนหมุนตัว (Rotating Bolt) |
อัตราการยิง | |
ความเร็วปากลำกล้อง | 2,800 ฟุต/วินาที (853 เมตร/วินาที) |
ระยะยิงหวังผล | 440 หลา (402 เมตร) |
ระยะยิงไกลสุด | 3,450 หลา (3,200 เมตร) |
น้ำหนัก | 9.5 ปอนด์ (4.31 กก.) น้ำหนักปืนเปล่า 11.6 ปอนด์ (5.3 กิโลกรัม) น้ำหนักปืนพร้อมกระสุน |
ความยาว | 43.5 นิ้ว (1,107.4 มิลลิเมตร) |
แบบอื่น | M1C, M1D |
ปืน M1 Garand มีคุณสมบัติในการยิงแบบกึ่งอัตโนมัติ ความแม่นยำสูง สามารถเล็งยิงซ้ำได้อย่างรวดเร็ว ตอนแรกนายการ์แรนด์ได้ออกแบบปืน M1 Garand ให้ใช้กับกระสุนขนาด 7×51 มิลลิเมตร (.276 Pedersen) และสามารถบรรจุในคลิปกระสุนได้ 10 นัด แต่เมื่อกองทัพสหรัฐฯรับมาพิจารณาใน ค.ศ.1932 ก็มีคำสั่งให้ใช้กระสุน .30-06 ทำให้ความจุเหลือเพียง 8 นัด และรับเข้าประจำการเมื่อวันที่ 6 มกราคม ค.ศ. 1936 ให้ชื่อเป็นทางการว่า United States Rifle, Caliber .30, M1 และเข้าประจำการในกองทัพบกเป็นหน่วยแรก ภายหลังได้มีการพัฒนาอุปกรณ์พิเศษ เช่น กล้องเล็ง เครื่องยิงลูกระเบิด ดาบปลายปืน รวมถึงการพัฒนาในโครงการต่างๆเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของปืนรุ่นนี้ เช่น การพัฒนาให้สามารถใช้ซองกระสุน 20 นัดของปืนเล็กกล Browning Automatic Rifle (BAR) ได้ในโครงการ T20
ปัจจุบันกองทัพสหรัฐฯได้ปลดประจำการปืน M1 Garand ทั้งหมดและประจำการด้วยปืนเอ็ม 16 แทน โดยปืนบางส่วนทางการสหรัฐฯได้มอบให้แก่กองกำลังท้องถิ่นและมิตรประเทศตามโครงการให้ความช่วยเหลือทางทหาร (JUSMAG) ในช่วงสงครามเย็นซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย โดยประเทศไทยได้รับมอบปืนรุ่นนี้สำหรับใช้ในภารกิจปราบปรามและรักษาความสงบภายในประเทศ ก่อนจะทยอยปลดประจำการเป็นอาวุธสำรองราชการและใช้เป็นปืนฝึกท่าอาวุธสำหรับนักศึกษาวิชาทหารในภายหลัง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น